หลังจากที่ ตารางบอลพรีเมียร์ลีก มีการคลอดโปรแกรมออกมาบน GoalDaddy ให้เราได้เห็นถึงตารางแข่งในแต่ละคู่ ตั้งแต่เกมนัดเปิดสนามในช่วงเดือนส.ค. ไล่ไปทีละนัดจนถึงนัดที่ 38 ของฤดูกาล ที่โดยปกติแล้วก็จะแข่งในช่วงเดือนพ.ค. ซึ่งนั่นคือโปรแกรมบอลแบบคร่าว ๆ ที่อาจจะยังไม่ได้ระบุวันเวลาที่ชัดเจน เพราะอาจขยับโยกไปได้ไม่เกิน 36 ชม. แต่ทุกทีมก็มีเป้าหมายชัด
ตารางบอลพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่เริ่มไปจนจบ
ลีกสูงสุดของอังกฤษ ที่แฟนบอลทั่วโลกเฝ้าติดตามรับชม เมื่อถึงช่วงแข่ง แน่นอนว่าในแต่ละซีซั่น ตารางบอลพรีเมียร์ลีก ก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคม หลังจากที่แข่งในถ้วยคอมมูนิตี้ ชิลด์ จบไปประมาณ 5-7 วัน ทำให้ง่ายสำหรับการติดตามเชียร์รวมถึงในหลาย ๆ ช่องทาง ด้วยการมีโปรแกรมที่ระบุไว้ชัดเจน
ซึ่งคอบอลในแต่ละคน ก็อาจจะให้ความสำคัญกับโปรแกรมแข่งของทีมที่พวกเขาเชียร์ ดูเอาไว้เพื่อให้ติดตามเชียร์ได้ง่ายขึ้น และคาดเดาถึงความน่าจะเป็นของทีมนั้น ๆ จากตารางแข่งที่ได้เห็นในช่วงแรก ซึ่งในอดีตก็เคยมีบางทีมที่ช่วงต้นฤดูกาล โปรแกรมแข่งในช่วงออกสตาร์ตของพวกเขาสาหัสมาก เป็นเกมเยือนทีมแกร่งหลายนัด และทำให้มีผลกับอันดับ
- ตารางแข่งบอลพรีเมียร์ลีก คุณสามารถคาดหวังได้เลยว่า จะเริ่มต้นในเดือนสิงหาคมของทุกปี
- โปรแกรมแข่ง ช่วยให้เราประเมินได้ถึงผลงานในช่วงต้นฤดูกาล ช่วงบ็อกซิ่งเดย์ หรือช่วงท้ายซีซั่นได้
หลังจากนั้นก็จะเป็นการวางแผนด้วยว่า เมื่อได้เห็น ตารางบอลพรีเมียร์ลีก แล้ว คุณจะเริ่มต้นเกมแรกของฤดูกาล ด้วยการดูคู่ไหนก่อน โดยจะเริ่มจากเกมแรกในช่วงคืนวันศุกร์เลย หรือจะเป็นเกมในวันเสาร์ และวันอื่น ๆ เพราะมีแข่งตั้งแต่ศุกร์ถึงจันทร์ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ชมของ GoalDaddy ที่สามารถเลือกได้ตามที่ตัวเองต้องการ ซึ่งก็จะเป็นแบบนี้เสมอไปจนจบฤดูกาลเลย
ออกสตาร์ตดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
ทีมที่มี ตารางบอลพรีเมียร์ลีก โดยที่ไม่ได้เจอกับโปรแกรมที่ยาก ในช่วง 8 นัดแรกของฤดูกาล ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งถ้าหากได้เจอกับทีมที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มทีมเต็งแชมป์ มากไปกว่าการเจอกับทีมที่ถูกคาดหมายว่า จะได้จบครึ่งล่างของตาราง หรือทีมที่อยู่ในกลุ่มหนีตกชั้น ก็มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะเก็บแต้มได้แบบเป็นกอบเป็นกำ และเกาะกลุ่มหัวตารางได้ตั้งแต่แรก
แน่นอนว่าการเริ่มต้นฤดูกาลได้ดี มันก็มีโอกาสมากกว่า ที่พวกเขาจะไปได้ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ อย่างเช่นที่เราได้เห็นฟอร์มของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ ซึ่งสมาชิกของ goaldaddy คงได้เห็นกันไปแล้วว่า พวกเขาสามารถกุมความได้เปรียบ จากการขึ้นนำเป็นจ่าฝูงตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล และสามารถรักษาฟอร์มการเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ จนไม่มีใครที่สามารถไล่ตามทันได้
ตารางแข่งช่วง 3 เดือนแรก
โดยปกติแล้วช่วง 3 เดือนแรกของฤดูกาล ทีมไหนที่มี ตารางบอลพรีเมียร์ลีก ที่ไม่เจอกับงานหนักมาก อย่างเช่นถ้าหากเป็น วูล์ฟแฮมป์ตัน ถ้า 5 นัดของทีมไม่ใช่การเจอกับ แมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ได้เจอกับ อิปสวิช, เซาแฮมป์ตัน และ เลสเตอร์ มันก็ถือเป็นโปรแกรมที่ง่ายกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งถ้าคุณเตรียมที่จะเข้าไปลงเสี่ยงโชคก็ถือเป็นโอกาสที่คุณจะได้เลือกลงลงเงินแบบล่วงหน้า และคาดเดาถึงผลลัพธ์ของแต่ละคู่ เพื่อหาอัตราจ่ายที่ดีที่สุดได้เช่นเดียวกัน ในขณะที่การแข่งของแต่ละทีม หากทางฝั่ง ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล หรือ เชลซี ทีมไหนที่ทำผลงานได้ดีตั้งแต่ต้นฤดูกาล มันก็มีโอกาสสูงกว่า ที่พวกเขาจะเกาะกลุ่มนำในช่วงท้าย
โปรแกรมที่เข้ามาคั่นในระหว่างฤดูกาล
สำหรับ ตารางบอลพรีเมียร์ลีก โดยปกติแล้ว ในช่วงเดือนก.ย. และเดือนต.ค.ของแต่ละปี จะมีช่วงพักเบรกทีมชาติ เปิดทางให้กับ อังกฤษ หรือทีมใดก็ตาม ได้ลงแข่งขันในรอบคัดเลือกรายการสำคัญ อย่างเช่นยูโรหรือฟุตบอลโลก รวมไปถึงเกมอุ่นเครื่อง ซึ่งในบางครั้งก็ถือเป็นโอกาสที่บางทีมได้พักตัวผู้เล่น แต่บางทีมก็ต้องเจอกับปัญหาผู้เล่นที่กรำศึกหนักมากขึ้น
มีหลายทีมที่มักเจอกับปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ มาจากการแข่งขันในเกมทีมชาติอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาร์เซนอล ที่เรามักได้ยินข่าวว่ามี มาร์ติน โอเดการ์ด หรือ โทมัส ปาร์เตย์ ที่ไปเล่นทีมชาติแล้วเจ็บกลับมา จนทำให้ราคาบอลในคู่ของพวกเขามีการเปลี่ยนแปลง หรือในเคสของ ลิเวอร์พูล ที่ผู้เล่นจากอเมริกาใต้ของพวกเขา มักเจอบาดเจ็บหรือความฟิตตก
ช่วงที่ตารางแข่งอัดแน่น
ขึ้นชื่อว่าเป็น ตารางบอลพรีเมียร์ลีก เมื่อเข้าถึงการแข่งขันตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย.เป็นต้นไป ที่กลับมาจากพักเบรกทีมชาติของเดือนนี้ จนถึงการแข่งในช่วงต้นเดือนก.พ. คุณจะสามารถเห็นได้ถึงโปรแกรมฟุตบอล โปรแกรมการถ่ายทอดสดฟุตบอล ใน GoalDaddy ที่หลาย ๆ ทีมต่างจะต้องกรำศึกหนัก ทั้งเกมในลีก ฟุตบอลถ้วยในประเทศ และฟุตบอลยุโรป ซึ่งเป็นช่วงที่การแข่งเต็มไปด้วยความเข้มข้น
- ทีมหัวตาราง มักเจอกับโปรแกรมที่อัดแน่นทั้งในและนอกประเทศ
- บางทีมอาจต้องแข่ง 7-9 นัดใน 30 วัน
- เดือนที่ตารางแน่นที่สุด ก็คือเดือนธ.ค.
ดังนั้นในช่วงเวลานี้ แต่ละทีมก็จะต้องพยายามบริหารทรัพยากรที่พวกเขามี ดูแลผู้เล่นให้อยู่ในสภาพร่างกายที่พร้อมที่สุด เท่าที่จะสามารถเป็นไปได้ โดยอาจใช้เป็นการหมุนเวียนผู้เล่นลงสนาม อย่างที่ อาร์เซนอล, เชลซี และ แมนฯ ซิตี้ รวมถึง แอสตัน วิลล่า มักทำให้เห็นอยู่เป็นประจำ เพราะพวกเขาต้องแข่งในอังกฤษ และต้องลงเล่นในเกมยุโรปด้วย
แต่ในขณะเดียวกัน การแข่งขันในช่วงที่ โปรแกรมบอลพรีเมียร์ลีก อัดแน่นแบบนี้ ก็ถือเป็นกำไรของผู้ชม ที่จะมีเกมให้รับชมอย่างต่อเนื่อง เกือบตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งก็อยู่ที่ตัวผู้ชมแล้วว่า พร้อมสำหรับการเข้าไปรับชมเกมการแข่งขันมากน้อยขนาดไหม ซึ่งอย่างที่เคยบอกไว้ในหลาย ๆ ครั้งก่อนหน้านี้ ก็คือ ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการรับชมของทุก ๆ คนในช่วงเวลานั้น
เป้าหมายของแต่ละทีม
ในแต่ละฤดูกาล ไม่ว่าจะมีผลบอลล่าสุด ตารางบอลพรีเมียร์ลีก ออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม ทุกทีมต่างก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า พวกเขาต้องการให้ทีมเดินหน้าไปในทิศทางไหน จบฤดูกาลด้วยตำแหน่งใด แต่ทั้งนี้ก็จะมีตัวแปรที่สำคัญอยู่ 4 เรื่องด้วยกัน ที่มีผลกับทีมนั้นโดยตรง
- ผลการแข่งขันในช่วง 5-10 นัดหลังสุด
- รูปแบบการเล่น สไตล์การเล่นของทีม
- การสนับสนุนของบอร์ดบริหาร และแฟนบอล
ซึ่งถ้าหากยังคงไปในทิศทางที่ดี ดูมีแนวโน้มว่าจะไปได้ถึงเป้าหมายที่ทีมได้วางไว้ ผู้จัดการทีมของพวกเขาก็จะได้ทำหน้าที่คุมทีมต่อไป แต่ทั้งนี้เป้าหมายของแต่ละทีม ต่างก็มีความชัดเจน อย่างเช่น แมนฯ ซิตี้ ต้องการเป็นแชมป์ลีกเท่านั้น, อาร์เซนอล ก็ต้องการแชมป์ลีก แต่อย่างน้อยต้องได้ลุ้นแชมป์ ติดท็อป 4 เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล
การคว้าอันดับท็อป 4 หรือท็อป 5 เพื่อคว้าสิทธิ์ไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลถัดไป คือเป้าหมายสำคัญของอย่างน้อย 7 สโมสรในทุกฤดูกาล ซึ่งแฟนบอลทั้งหลายก็น่าจะเดาได้ไม่ยากว่า เมื่อดูจากตารางพรีเมียร์ลีกก่อนเปิดซีซั่น ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, แอสตัน วิลล่า และบรรดายักษ์ใหญ่อย่าง เชลซี ต่างก็มุ่งมั่นสู่เป้าหมายเดียวกัน